การมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนและสังคม
บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาชุมชนและสังคมด้วยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน และการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้อุตสาหกรรมไฟฟ้าสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างเกื้อกูลกันอย่างยั่งยืน ในฐานะบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าสัญชาติไทย บริษัทให้ความสำคัญกับการผลิตไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งดำเนินการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาสังคมโดยตรง
นอกจากนี้ บริษัทตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับชุมชนโดยรอบ และให้ความสำคัญกับการสนับสนุนอาชีพของคนในพื้นที่ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในท้องถิ่น ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งในระดับองค์กรและระดับสังคม เพื่อประโยชน์ร่วมกันของประเทศไทยในระยะยาว
เป้าหมายการดำเนินงาน
- ไม่มีกรณีร้องเรียน หรือเรียกร้องเยียวยาหรือชดเชย
- กำหนดอัตราจ้างพนักงานในพื้นที่ตั้งโรงงาน มากกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนพนักงานใหม่ทั้งหมดของบริษัทต่อปี
แนวบริหารจัดการ
ตลอดการดำเนินงานที่ผ่านมาบริษัท ได้คำนึงถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อสังคมและชุมชนมาโดยตลอดครอบคลุมทุกแหล่งดำเนินการของบริษัท (100%) เนื่องจากการลงทุนในแต่ละโครงการของบริษัท เป็นโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงในขั้นตอนใดหนึ่งที่มีความเป็นไปได้ต่อการสร้างผลกระทบ ทั้งในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นบริษัทจึงให้ความสำคัญในกระบวนการประเมินผลกระทบ โดยพิจารณาจากความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการหรือความคาดหวังของชุมชนผู้ได้รับผลกระทบ รวมทั้ง บริษัทให้การสนับสนุนเศรษฐกิจในท้องถิ่นผ่านการจ้างงานในชุมชนที่ตั้งโรงงาน ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจของบริษัทในการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและส่งเสริมการจ้างงานในพื้นที่อย่างยั่งยืน
วิธีการ หรือกระบวนการในการประเมินผลกระทบที่ชุมชนได้รับจากการดำเนินงานขององค์กร
บริษัทได้ดำเนินการตามกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยได้มีการจัดการให้ข้อมูล รายละเอียดโครงการต่าง ๆที่ดำเนินการอย่างโปร่งใส เพื่อรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะของชุมชน เพื่อนำมาพิจารณาในการดำเนินการโครงการต่าง ๆ ทั้งก่อนและหลังดำเนินการ ตลอดจนจัดให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการซึ่งเป็นตัวแทนจากหลากหลายภาคส่วนของชุมชน เพื่อเข้าร่วมในการดำเนินงานของบริษัท ในการตรวจติดตามและเสนอข้อร้องเรียน หรือข้อแนะนำ เพื่อเป็นการสื่อสารและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นร่วมกัน
นอกจากนี้ บริษัทได้จัดตั้งกองทุนต่าง ๆให้แก่ชุมชน ซึ่งเป็นกองทุนภาคสมัครใจเพิ่มเติมที่ไม่ใช่ข้อกำหนดในกฎหมาย โดยให้ตัวแทนชุมชนเป็นผู้เข้ามาบริหารจัดการ
บริษัทยังได้จัดให้มีกิจกรรม open house เพื่อให้ตัวแทนชุมชน สถานศึกษา ส่วนราชการ หรือภาคเอกชน ที่เกี่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชม กระบวนการจัดการ และโรงงาน เพื่อเปิดโอกาสให้เห็นสภาพตามความเป็นจริง และได้มีโอกาสที่จะสื่อสารกันทางตรง
โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หัวข้อ “การจัดกิจกรรมด้านกิจกรรม CSR สำหรับชุมชนในพื้นที่ที่ตั้งโรงงาน เข้ารับฟังปัญหาและดูแลแก้ไขผลกระทบอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ” ตามแผนผังที่ได้แสดงไว้
การจัดตั้งงบสนับสนุนกองทุนโรงไฟฟ้าภาคสมัครใจเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมด้านความรับผิดชอบต่อสังคม
บริษัทได้มีการสนับสนุนด้านการเงินโดยการจัดตั้งกองทุนต่าง ๆ เพื่อมีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมให้มีการดูแลชุมชนในพื้นที่รอบการดำเนินกิจการโรงไฟฟ้าของบริษัท โดยการจัดตั้งกองทุน เพื่อให้สถาบันการศึกษา สถาบันวิจัย นักวิชาการ ตัวแทนชุมชน และบริษัท ได้เข้ามาร่วมในการดำเนินการโครงการต่าง ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ดังนี้
- กองทุนประกันสุขภาพแก่ชุมชนรอบโรงไฟฟ้า
เพื่อเป็นหลักประกันในการเยียวยาการรักษาการเจ็บป่วยของประชาชนในพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตร รอบโครงการโรงไฟฟ้า ในกรณีที่การเจ็บป่วยนั้นเกิดจากการดำเนินงานของโครงการซึ่งได้นำเงินเข้าบัญชีกองทุนฯ 1,000,000 บาทในปีแรก และนำเงินเข้าบัญชีกองทุนฯ 500,000 บาทในปีต่อ ๆ ไปทุกปี ตั้งแต่ปี 2562 จนถึงสิ้นปี 2567 เงินกองทุนฯ มียอดเงินสะสมรวม 3,533,779.06บาท
- กองทุนเพื่อโครงการวิจัยพัฒนาอาชีพชุมชนและอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เพื่อสนับสนุนงบประมาณในการวิจัยพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมพัฒนาขีดความสามารถในการประกอบอาชีพ และการพัฒนาอาชีพของชุมชนโดยสนับสนุนงบประมาณโครงการละ 200,000 บาท ปีละไม่ต่ำกว่า 2 โครงการตั้งแต่ปี 2562 จนถึงสิ้นปี 2567 เงินกองทุนฯ มียอดเงินสะสมรวม 2,466,800บาท
- งบสนับสนุนคุณภาพด้านบุคลากรอุปกรณ์ทางการแพทย์และงานวิจัยทางด้านสาธารณสุข
เพื่อใช้สนับสนุนกิจกรรมด้านสาธารสุขในพื้นที่ในการส่งเสริมและเฝ้าระวังทางสุขภาพ ทั้งในระดับตำบล อำเภอ และจังหวัด เช่น การสนับสนุนการฝึกอบรม อสม. สนับสนุนงบการศึกษาวิจัยหรือเฝ้าระวังผลกระทบด้านสุขภาพ จัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ และสนับสนุนบุคลากรด้านสาธารณสุข เป็นต้น โดยมีงบประมาณในการดำเนินงานปีละ 300,000 บาทตั้งแต่ปี 2562 จนถึงสิ้นปี 2567 งบสนับสนุนมียอดเงินสะสมรวม 8,093,723.80บาท
- งบสนับสนุนด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
เพื่อสนับสนุนการเพิ่มศักยภาพของโรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพตำบลและบุคลากรสาธารณสุข เพื่อดูแลรักษาสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ โดยการสนับสนุนเวชภัณฑ์ เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ การอบรมและฝึกปฎิบัติจากบุคลากรด้านอาชีวอนามัยหรือสุขศาสตร์หรืออาชีวศาสตร์เป็นประจำทุกปี โดยมีงบประมาณในการดำเนินงานปีละ 300,000 บาท ตั้งแต่ปี 2562 จนถึงสิ้นปี 2567 งบสนับสนุนมียอดเงินสะสมรวม 356,273 บาท
- งบสนับสนุนด้านทรัพยากรชีวภาพ งบประมาณดำเนินการ ปีละ 300,000 บาท
เพื่อสนับสนุนกิจกรรมการฟื้นฟูพื้นที่ป่าไม้ ให้กับชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ในการปลูกป่าไม้ทดแทน สะท้อนถึงเจตารมณ์ขององค์กรที่จะเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้พื้นที่ดังกล่าว โดยในอนาคตมุ่งหวังให้พื้นที่ที่ดำเนินการเป็นปอดที่ช่วยดูดซับมลพิษอากาศและเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าท้องถิ่น อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูแหล่งต้นน้ำและเป็นแหล่งอาหารของชุมชน โดยดำเนินการผ่านมูลนิธิสิ่งแวดล้อมเพื่อชีวิต ตั้งแต่ปี 2562 จนถึงสิ้นปี 2567 งบสนับสนุนมียอดเงินสะสมรวม 1,086,000 บาท
ผลการดำเนินงาน
บริษัทได้ว่าจ้างพนักงานใหม่ในพื้นที่ตั้งโรงงานจำนวน 67 คน คิดเป็นร้อยละ 75.28 ของพนักงานใหม่ทั้งหมด สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ และบริษัทไม่มีข้อร้องเรียนจากชุมชนและสังคม
กิจกรรมเพื่อสังคม
การดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรแบ่งออกเป็น 2 ด้านหลักๆ คือ ด้านชุมชนสัมพันธ์ (Community Relations ) และด้านความรับผิดชอบต่อสังคมในระดับองค์กร (Corporate CSR) โดยในปี 2567 ผ่านมา กลุ่มบริษัททีพีไอโพลีนได้สนับสนุนงบประมาณ ผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง ผลิตภัณฑ์รักษ์สุขภาพในเครือทีพีไอโพลีน เป็นจำนวนเงิน 38,222,404.02 บาท ให้แก่ชุมชนและสังคมทุกด้าน โดยได้ดำเนินงานทั้งสองด้านควบคู่กันไปซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้
(4.1) ด้านชุมชนสัมพันธ์ (Community Relations)
บริษัทมีโรงงานผลิตตั้งอยู่ในพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ บริษัทมีนโยบายเชิงรุกให้ทุกหน่วยผลิตให้การช่วยเหลือสนับสนุนด้านสุขอนามัยและลดผลกระทบจากการแพร่ระบาด โดยไม่ต้องรอให้ชุมชนร้องขอ และให้การสนับสนุนชุมชนรอบข้างและสังคมที่สำคัญ ดังนี้
(1) เสริมสร้างชุมชนให้มีสุขภาพดี ออกบริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ใน “โครงการดูแลสุขภาพประจำปี” ให้บริการตรวจสุขภาพประชาชน, บริการตรวจเอ็กซ์เรย์ทรวงอก,ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด, ตรวจวัดสายตา ให้กับคนในชุมชน อ.แก่งคอย, อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
(2) เพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย ทางบริษัทได้ร่วมกับภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 2 (จ.ลพบุรี) และเหล่ากาชาด จ.สระบุรี จัดกิจกรรมการบริจาคโลหิต โดยผู้บริหาร พนักงานในเครือทีพีไอ โพลีนและผู้รับเหมา ร่วมบริจาคโลหิตจำนวนกว่า 240,000 ซีซี เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยในพื้นที่จังหวัดสระบุรีและจังหวัดใกล้เคียง
(3) โครงการคัดแยกขยะแลกไฟฟ้าพัฒนาชุมชน เพื่อให้ความรู้ในการคัดแยกขยะครัวเรือน และลดปริมาณขยะให้กับคนในชุมชน รวมถึงให้ความรู้ด้านการออกแบบและจัดทำผลิตภัณฑ์จากขยะรีไซเคิล เพื่อนำขยะมาประดิษฐ์เป็นผลิตภัณฑ์ ทำให้ชุมชนสามารถสร้างรายได้จากจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากขยะรีไซเคิล และสร้างรายได้จากการจำหน่ายขยะของครัวเรือน ให้กับบริษัท เพื่อนำไปผลิตไฟฟ้า สามารถลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม มีสุขภาพ สุขลักษณะในการดำรงชีวิตที่ดีขึ้น มีการรวมกลุ่มสมาชิกของชุมชน เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเป็นรายได้เสริมให้กับคนในชุมชนต่อไป
(4) สนับสนุนเครื่องกรองน้ำ และซ่อมบำรุง เพื่อดูแลสุขภาพชุมชนขั้นพื้นฐาน จัดหาน้ำดื่มสะอาดบริการประชาชนและยังช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน ให้กับชุมชนรอบโรงงานฯ 14 หมู่บ้าน อ.แก่งคอย และ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
(5) ทีพีไอแบ่งปันน้ำใจ ทดแทนการใช้ถุงพลาสติก ลดปัญหาโลกร้อน ส่งมอบถุงกระดาษและ ถุงผ้าสำหรับใส่ยา จากเพื่อนๆ พนักงานที่นำมาบริจาคทั้งส่วนของโรงงานสระบุรี และ สำนักงานใหญ่ จำนวนกว่า 2,700 ใบ ให้กับโรงพยาบาลสระบุรี เพื่อให้ผู้ป่วยที่มารับบริการแผนกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลสระบุรีใส่ยากลับบ้าน ณ จุดบริการบริเวณหน้าห้องจ่ายยา
(4.2) ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมในระดับองค์กร (Corporate CSR)
นอกจากนี้ บริษัทยังมีส่วนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับชุมชน
โดยในปี 2567 บริษัทได้มีกิจกรรมร่วมกับชุมชนและกิจกรรมที่สำคัญ ดังนี้
กิจกรรมการช่วยเหลือสังคมและชุมชน
การมีส่วนร่วมและการพัฒนาชุมชน (Community involvement and development)
- สนับสนุนงบประมาณเพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย เช่น บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน), บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหาร พนักงานและญาติมิตร ร่วมบริจาคเงินจำนวน 16,941,441 บาท สมทบกองทุนวันมหิดล ประจำปี 2567 เพื่อหาทุนสนับสนุน การปรับปรุงห้องผ่าตัดตึกสยามมินทร์ ชั้น 3,4,5 และรายได้ส่วนหนึ่งจะมอบให้แก่ผู้ป่วยด้อยโอกาส, สนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อใช้ในการดูแลผู้ป่วยจากโครงการคลินิกโสต ศอ นาสิก 7 รายการ ของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เป็นเงิน 2,980,800 บาท,ศูนย์วิจัยโรคเอดส์และโรคติดเชื้อ, ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าในโครงการ ผ้าป่ามหากุศล ช่วยคนตาบอดทั้งแผ่นดินให้รู้หนังสือ และมีงานทำ ประจำปี 2567 สนับสนุนโครงการวิ่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (หาดใหญ่) สู่ธรรมชาติ ปี 2567 ครั้งที่ 24, ร่วมสนับสนุนจัดซื้อชุดเครื่องเสียงให้กับโรงเรียนบ้านหนองตลุมปุ๊ก จ.นครราชสีมา
- ร่วมเป็นเจ้าภาพมหาจุลกฐินวัดศรีดอนมูล จ.เชียงใหม่, เป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี วัดบ้านหินลับ จ.สระบุรี, ร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี มูลนิธิสถาบันแสงสว่าง ในพระอุปถัมภ์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ, ร่วมผ้าพระกฐินพระราชทาน วัดลุ่มมหาชัยชุมพล จ.ระยอง บริจาคผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์ทีพีไอ จำนวน 172 ตัน ,คอนกรีตแห้งทีพีไอ จำนวน 83 คิว, สีนาโน ซูเปอร์ อาร์เมอร์ ทีพีไอ ฯลฯ ให้กับหน่วยงานราชการ โรงเรียน วัด ในการปรับปรุง ซ่อมแซม อาทิเช่น วัดมหาธาตุ วชิรมงคล จ.กระบี่ เพื่อดำเนินการก่อสร้างพุทธสถานและพระมหาธาตุเจดีย์เพื่อเป็นศาสนสถานในพระพุทธศาสนา (พระพุทธรูปปางเปิดโลก สูง 32 เมตร) และเสนาสนะที่เหลือภายในวัด, ปรับปรุงภูมิทัศน์ลานอเนกประสงค์สำหรับจอดรถประชาชนผู้มาติดต่อราชการ ของสถานีตำรวจภูธรจะนะ, เทพื้นอาคารและถนน, ซ่อมแซมอาคารเรียน จำนวน 7 โรงเรียน ของ จ.สงขลาและ จ.อุบลราชธานี
นอกจากนี้ยังร่วมส่งเสริมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในด้านอื่น ๆ เช่น สนับสนุนโครงการสามเณรรากแก้วศาสนทายาท วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก, สนับสนุนการเผยแพร่ธรรมะ ทางช่องธรรมะบันดาลใจ วัดเวฬุวัน จ.กาญจนบุรี และสนับสนุนการเผยแพร่พระพุทธศาสนาทางสถานีโทรทัศน์โลกพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย วัดยานนาวา (WBTV) ฯลฯ
บริษัทภายใต้กลุ่ม ทีพีไอ โพลีน ได้สนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ตลอดปี 2567 โดยร่วมกับหน่วยงานและชุมชนในจังหวัดสระบุรีในการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น กิจกรรมวันอนุรักษ์ลำน้ำมวกเหล็ก ณ อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย ร่วมกับ อ.มวกเหล็ก การปลูกต้นไม้ฟื้นฟูป่าและเพิ่มพื้นที่สีเขียวร่วมกับสถานีวิจัยทับกวาง คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และการปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ ในหลายพื้นที่ รวมถึงบริเวณป่าชุมชน ป่าสงวนแห่งชาติ และสถานศึกษา โดยปลูกต้นไม้จำนวนรวมมากกว่า 10,667 ต้น ครอบคลุมพื้นที่ปลูกป่ารวม 150 ไร่ ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวเป็นการลดก๊าซเรือนกระจก ลดมลพิษทางอากาศ ป้องกันการพังทลายของดิน และช่วยฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ
กิจกรรมดังกล่าวข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่บริษัท ให้ความสำคัญและมุ่งมั่นที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและสังคมให้ดีขึ้น บริษัทตระหนักถึงบทบาทที่สำคัญในความรับผิดชอบขององค์กรต่อสังคม (Corporate Social Responsibility) พร้อมที่จะสนับสนุนสังคม การศึกษา เยาวชน ศาสนาและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างสรรค์สังคมที่เกื้อกูล สิ่งแวดล้อมที่ดี และเศรษฐกิจไทยที่เติบโตอย่างยั่งยืน