การบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม

 

การบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Management)

 

บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า โดยมุ่งมั่นแก้ปัญหาทรัพยากรที่จำกัดและผลกระทบจากการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคมและชุมชน บริษัทจึงใช้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาเป็นแนวทางสำคัญในการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม โดยครอบคลุมการใช้พลังงานหมุนเวียน การนำน้ำและวัสดุเหลือใช้กลับมาใช้ใหม่ การจัดการขยะตามแนวคิด Zero Waste และการเพิ่มประสิทธิภาพในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่อุปทาน เพื่อสร้างสมดุลระหว่างธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สู่อนาคตที่ยั่งยืนของคนรุ่นปัจจุบันและอนาคต

แนวบริหารจัดการ

                บริษัทมุ่งสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานสีเขียวที่ผลิตจากพลังงานทดแทนและพลังงานสะอาดทั้งหมด พร้อมนำ BCG Model (Bio-Circular-Green Economy) มาใช้บริหารจัดการ โดยหมุนเวียนของเสียจากกระบวนการผลิตกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่จำกัด เพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนสำหรับใช้ในบริษัทในเครือ เพื่อลด Carbon Footprint และมุ่งสู่การเป็น RE100 (ใช้พลังงานหมุนเวียน 100%) บริษัทลงทุนในโครงการบริหารจัดการขยะชุมชนและเข้าร่วมประมูลโครงการพลังงานหมุนเวียน เพื่อสร้างการเติบโตและรายได้ที่ยั่งยืน ภายใต้แนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainability) เพื่อสร้างสมดุลทางด้าน ESG  นอกจากนี้ บริษัทยังบูรณาการแนวคิด BCG Model ในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่คุณค่า เช่น การใช้เชื้อเพลิงขยะแทนถ่านหินในกระบวนการผลิตไฟฟ้า ยกเลิกการใช้ถ่านหิน และมุ่งสู่การเป็นอุตสาหกรรมสีเขียวที่สะอาด ปลอดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การดำเนินงานครอบคลุมตั้งแต่การวิจัยพัฒนา การจัดหาทรัพยากร การผลิตที่มีประสิทธิภาพสูง การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และการผลิตผลิตภัณฑ์สีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ดังกล่าวยังมีส่วนร่วมในการสร้างโลกสีเขียวอย่างยั่งยืนอีกด้วย

ผลจากการที่บริษัทดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมดังกล่าว ทำให้บริษัทได้รับมาตรฐาน ISO 14001:2015 จากการตรวจสอบและรับรองโดย SOCOTEC Certification International Thailand ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมีระบบและประสิทธิภาพ มีหลักการปฏิบัติที่บริษัทสามารถระบุและประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากกิจกรรม ผลิตภัณฑ์ และบริการขององค์กร พร้อมทั้งบริหารจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ บริษัทได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งในระดับกฎหมายและข้อกำหนดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทยึดหลักการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (Continual Improvement) โดยการนำข้อมูลเชิงปฏิบัติการประจำปีมาใช้วางแผนและปรับปรุงการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดผลกระทบทางลบ พร้อมส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกระดับ ตั้งแต่พนักงาน คู่ค้า ลูกค้า และชุมชน อันเป็นการช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร ทั้งยังลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและพลังงาน ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดปริมาณของเสียและมลพิษ และสร้างโอกาสในการแข่งขันในตลาดที่มุ่งเน้นความยั่งยืนอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ ประเด็นความยั่งยืนที่มีสาระสำคัญสูงในด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทในปี 2567 มีจำนวน 4 ประเด็น ดังนี้

  1. การจัดการด้านสภาพภูมิอากาศ
  2. การใช้พลังงาน
  3. การบริหารจัดการน้ำ
  4. การจัดการขยะและของเสีย