นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP เข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณจากโครงการหนึ่งล้านกล้าความดี  ตอบแทนคุณแผ่นดิน ประจำปี 2567 โดยมูลนิธิเพื่อสังคมไทย ซึ่งได้รับเกียรติจาก       พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี  เป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ โดยได้รับรางวัลเกียรติคุณ จำนวน  6 รางวัล แบ่งเป็นรางวัลเกียรติยศประเภทบุคคลจำนวน 2 รางวัล ได้แก่ “รางวัลผู้นำองค์กรดีเด่นแห่งปี และ รางวัลความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมดีเด่นแห่งปี ซึ่งทั้ง 2 รางวัลนี้ ได้มอบให้กับ คุณประชัย เลี่ยวไพรัตน์         ประธานกรรมการ บริษัททีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)  เนื่องจากผู้บริหาร         นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เป็นบุคคลทรงคุณค่า มีผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชน มีวิสัยทัศน์ที่เป็นแบบอย่างที่ดี และมีความสามารถนำความรู้ไปปฏิบัติจริง  และรางวัลเกียรติคุณที่มอบให้แก่องค์กร TPIPP ได้แก่  รางวัลความดีตอบแทนคุณแผ่นดิน , รางวัลความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมดีเด่นแห่งปี, รางวัลการบริการดีเด่นแห่งปี และ รางวัลบริษัทดีเด่นแห่งปี นับเป็นรางวัลเกียรติยศ ที่มอบให้บุคคลและองค์กรที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนและได้สร้างประโยชน์แก่ส่วนรวม อีกทั้ง ตอบแทนคุณแผ่นดินในรูปแบบ       ต่าง ๆ สมควรยกย่องให้เป็นแบบอย่างที่ดีต่อสังคมและสาธารณชน

บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและภูมิภาคอาเซียน มีกำไรในไตรมาส 2 ปี 2567 สูงขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2567 โดยในไตรมาส 2     บริษัทฯมีรายได้อยู่ที่ 2,786 ล้านบาท สูงขึ้น 147 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.6 จาก 2,639 ล้านบาทในไตรมาส 1 นอกจากนั้น กำไรสุทธิของไตรมาส 2 ปี 2567 อยู่ที่ 858 ล้านบาท สูงขึ้น 158 ล้านบาท หรือร้อยละ 22.6 จาก 699 ล้านบาทในไตรมาส 1 เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง จากการปรับปรุงโรงไฟฟ้าให้ใช้ขยะและวัสดุเหลือใช้แทน ถ่านหินและเชื้อเพลิง Fossil         

 

บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 ในวันที่ 6 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งผลประกอบการของไตรมาส 2 ปี 2567 ดีขึ้นจากผลประกอบการของไตรมาส 1 ปี 2567 โดยในไตรมาส 2 ปี 2567  บริษัทฯมีรายได้ 2,786 ล้านบาท ดีขึ้น 147 ล้านบาทหรือร้อยละ 5.6 จาก 2,639 ล้านบาทในไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 ในส่วนของกำไร/ขาดทุนนั้น ผลประกอบการดีขึ้น จากช่วงไตรมาส 1 ปี 2567 โดยบริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 858 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2567 สูงขึ้น 159 ล้านบาท หรือร้อยละ 22.7 จาก 699 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2567 เป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับสิ่งที่ข่าวสารที่สื่อสารออกมาจากทางบริษัทฯตลอดปี 2565 – ปี 2567 ซึ่งเป็นผลพวงจากการที่ บริษัทฯมีการจัดการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้นจากการเปลี่ยนวัตถุดิบของโรงไฟฟ้า จากการใช้เชื้อเพลิงจากขยะ แทนที่เชื้อเพลิงถ่านหิน ซึ่งเชื้อเพลิงจากขยะมีความผันผวนของราคาน้อยกว่า      

 

นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า Adder ที่หมดไปมีเพียงร้อยละ 40 โดยบริษัทฯยังสามารถขายไฟฟ้าได้ในราคาค่าไฟฐาน ไม่มีส่วนลดใดๆ และบริษัทยังรับ Adder ที่เหลืออีก   ร้อยละ 60 อย่างเต็มที่ นอกจากนั้นทางบริษัทฯได้พยายามสื่อสารว่า การเปลี่ยนเชื้อเพลิงจากถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงขยะทำให้ต้นทุนลดลง เนื่องจากวัตถุดิบของโรงไฟฟ้าขยะไม่ได้ผันผวนเหมือนโรงไฟฟ้าถ่านหิน ปอกรกับการที่ค่าไฟฟ้าสูงขึ้น ทำให้รายได้และกำไรของบริษัทฯสูงขึ้น ปอกรกับการที่บริษัทได้ลงทุนใน โซล่าร์ฟาร์ม (Solar Farm) และหลังคาโซล่าร์ (Solar Rooftop) โดยในไตรมาส 3 ของปี 2567 จะเริ่มเห็นผล

 

“กำไรที่เติบโตขึ้นเป็นสิ่งที่บริษัทฯได้คาดการณ์เอาไว้ตั้งแต่ต้น เพราะทางบริษัทฯได้ทำ projection ด้วยโมเดลการเงินของบริษัทฯเอง โดยไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขอะไร ผลประกอบการของบริษัทฯในไตรมาส 2 ควรจะดีกว่าในไตรมาส 1 ดังนั้นกำไรที่โตขึ้นเป็นสิ่งที่บริษัทฯได้คาดคะเนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ด้วยข้อกฎหมายทำให้บริษัทฯไม่สามารถประกาศตัวเลขอย่างเป็นทางการได้ก่อนผ่านการตรวจทาน ทั้งนี้บริษัทฯ ได้เปลี่ยนโรงไฟฟ้าถ่านหินบางส่วน ให้มาใช้เชื้อเพลิงขยะแล้ว และกำลังดำเนินการเปลี่ยนโรงไฟฟ้าถ่านหินที่เหลือทั้งหมดให้การเป็นโรงไฟฟ้าขยะ ซึ่งการเปลี่ยนเชื้อเพลิงในครั้งนี้บริษัทฯ ทำประโยชน์ให้สองประการ เพราะนอกจากช่วยเรื่องต้นทุนการผลิตแล้ว ยังสอดคล้องกับนโยบายของกลุ่มบริษัท ทีพีไอ โพลีน ที่ต้องการจะเป็น Carbon-Free group of companies หรือ กลุ่มบริษัทที่จะไม่มีการปล่อยคาร์บอนเลย ตามโปรแกรม Journey to Net Zero ของทางบริษัท นอกจากนั้นบริษัทฯยังได้ลงทุนในเรื่อง Solar Farm และ Solar Rooftop เป็นการช่วยผลประกอบการของบริษัทฯอีกทางหนึ่ง และยังไม่ขัดต่อ นโยบาย Carbon-Free group of companies ของกลุ่มอีกด้วย ” นายภัคพล กล่าว

 12 กรกฎาคม 2567บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (TPIPP) ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะรายใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นผู้ให้บริการกำจัดขยะ โดยมีโรงกำจัดขยะชุมชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย  โดยโรงงานกำจัดขยะทั้งหมดของบริษัทตั้งอยู่ในพื้นที่แห่งเดียวกันที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance : ESG) จากการประเมินหลักทรัพย์จดทะเบียน ในปี พ.ศ. 2567 โดยสถาบันไทยพัฒน์

นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถาบันไทยพัฒน์ประกาศให้ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (TPIPP) ติดอันดับ ESG100 ประจำปี 2567 ด้วยการคัดเลือกจาก 920 หลักทรัพย์จดทะเบียน ให้เป็นบริษัทที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และ บรรษัทภิบาล (ESG) ในกลุ่มทรัพยากร และบริษัทเข้าอยู่ในทำเนียบ ESG100 ได้เป็นปีที่ 5 (2561 และ 2564 - 2567)

บริษัทมุ่งมั่นดำเนินการและปรับเปลี่ยนองค์กร เพื่อขานรับ Global Mega Trend เรื่อง Climate Change และ Cleaner & Greener ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเปลี่ยนเป็นโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ 100% แบ่งออกเป็น 6 เฟส โดยเฟสที่ 1 - 3 แล้วเสร็จรวมประมาณ 40% ในช่วงปี 2565 - 2566 ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการในเฟสที่ 4 , 5 และ 6 โดยเฟสที่ 4 จะแล้วเสร็จในช่วงเดือน ธ.ค. 2567 เฟสที่ 5 จะแล้วเสร็จในช่วงเดือน มี.ค. 2568 และเฟสที่ 6 จะแล้วเสร็จในช่วงเดือน เม.ย. 2568 ซึ่งจะทำให้บริษัทเป็นโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ 100% ทั้งหมดในปี 2568 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ในปี 2566 บริษัทได้นำขยะชุมชนมาทำการคัดแยกเป็นเชื้อเพลิงทดแทน แทนการนำขยะชุมชนไปฝังกลบ ได้เป็นจำนวนกว่า 2.77 ล้านตัน ทำให้ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการฝังกลบสู่บรรยากาศได้ จำนวนสูงถึง 6.43 ล้านตัน CO2  เทียบเท่า นอกเหนือจากใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงขยะแล้ว บริษัทยังให้ความสำคัญกับการเติบโตในธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดสีเขียว ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้แก่พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม

ทั้งนี้ การจัดอันดับของสถาบันไทยพัฒน์ พิจารณาข้อมูลจากการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) และผลประกอบการของบริษัทควบคู่ไปพร้อมกัน

สำหรับสถาบันไทยพัฒน์ เป็นผู้ริเริ่มพัฒนาข้อมูลด้านความยั่งยืนของธุรกิจ ได้เปิดเผยรายชื่อหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้าน ESG จำนวน 100 บริษัท หรือที่เรียกว่ากลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 เป็นครั้งแรกในปี 2558 และได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนและดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่สิบในปีนี้

ขณะที่ การจัดอันดับบริษัทจดทะเบียนด้านการพัฒนาความยั่งยืนของธุรกิจนี้ ถือเป็นแหล่งข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน เพื่อรองรับความต้องการของผู้ลงทุนที่ให้น้ำหนักการลงทุนในบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ และเป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีคุณภาพและได้รับผลตอบแทนที่มิได้ด้อยไปกว่าการลงทุนในแบบทั่วไป

**********************************************

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

คุณศิตา ศิริศักดิพร

โทรศัพท์: 02-930-5227 โทรสาร: 02-930-5228

อีเมล: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

 

 

นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ (ที่ 5 จากซ้าย) ประธานกรรมการ พร้อมคณะผู้บริหารบริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (TPIPP) รับมอบประกาศนียบัตร ESG100 Company ประจำปี 2567 ในฐานะบริษัทที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) จากนายพิพัฒน์ ยอดพฤติการ (ที่ 4 จากซ้าย) ประธานสถาบันไทยพัฒน์ ณ สำนักงานใหญ่ ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ สาทร กรุงเทพฯ

14 มิถุนายน 2567 – บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (“TPIPP”) เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะรายใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นผู้ให้บริการกำจัดขยะ โดยมีโรงกำจัดขยะชุมชนใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยโรงงานกำจัดขยะทั้งหมดของบริษัทตั้งอยู่ในพื้นที่แห่งเดียวกันที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประสบความสำเร็จโดยผ่านการตรวจรับรองมาตรฐาน ISO14064-1 (Carbon Footprint Verification or CFV) ซึ่งเป็นมาตรฐานว่าด้วยเรื่องหลักการและข้อกำหนดระดับองค์กร สำหรับการวัดปริมาณและการรายงานผลการปลดปล่อยและลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก รวมถึงข้อกำหนดสำหรับการออกแบบ การพัฒนา การจัดการ การรายงาน และการทวนสอบบัญชีรายการปลดปล่อยและการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกขององค์กร จาก BSI สถาบันมาตรฐานอังกฤษ

นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานกรรมการ บมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์  เปิดเผยว่า TPIPP ผ่านการตรวจรับรองมาตรฐาน ISO14064-1 (Carbon Footprint Verification  or CFV)  จากบริษัท บีเอสไอ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด  (“BSI”)  ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการทวนสอบคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากสถาบันมาตรฐานอังกฤษ  ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของการประกันคุณภาพ และขั้นตอนการควบคุมคุณภาพในอุตสาหกรรม

บริษัทให้ความสำคัญและตระหนักถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ซึ่งเป็นปัญหาระดับโลกที่ได้รับความสนใจจากองค์กร รัฐบาล และบุคคลต่างๆ องค์กรชั้นนำทั่วโลกมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงเพื่อแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน การวัดและการรายงานคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร เป็นการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเรื่องปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่องค์กรต้องการลดและ/หรือชดเชยหรือเพื่อให้เป็นองค์กรที่มี 'ความเป็นกลางของคาร์บอน (Carbon Neutral)  ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับการสร้างความมั่นใจ และแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม”

ข้อมูลเพิ่มเติม:

BSI Group (Thailand) Co., Ltd.

Tel. 02-2944889-92

Email: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

 

ดร.ปรกฤษฏ์ เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ได้เป็นตัวแทนเข้ารับรางวัลจากนิตยสาร International Finance Magazine (IFM) ของ สหราชอาณาจักร ในฐานะบริษัทผู้นำด้านนวัตกรรม ESG Energy Efficiency ของประเทศไทยประจำปี 2566 โดยในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สามติดต่อกันแล้วที่บริษัททีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ได้รับการยอมรับจาก International Finance Magazine (IFM) ในด้านความสำเร็จจากการใช้พลังงานเชื้อเพลิงขยะในการผลิตพลังงานที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำว่าบริษัทเป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ (Municipal Solid Waste-MSW) รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน และเป็นโรงกำจัดขยะชุมชนใหญ่ที่สุดของประเทศ ไทย และของโลก ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่แห่งเดียวกันที่ใหญ่ที่สุดในโลก และทางกลุ่มบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายจะเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 100% ภายในปี 2569 และจะสร้างนวัตกรรมใหม่ๆเพื่อนำประเทศในการก้าวเข้าสู่สังคมไร้คาร์บอน หรือ Net Zero Emissions ต่อไป

นโยบายคุกกี้

This website stores cookies to provide you with a better experience of our website, and to enable us to provide you with offers, promotional activities, and personalised content. Use of this website is an acceptance of the terms and consent to us to store cookies in accordance with the policy initially stated. เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงให้เราสามารถมอบข้อเสนอ กิจกรรมส่งเสริมการขาย เลือกเนื้อหาที่เหมาะสมให้กับคุณอย่างเป็นส่วนตัว การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุกกี้ตามนโยบายที่แจ้งในเบื้องต้น